Excerpt from ‘Near-Death Experiences – Exploring Heavens and the Afterlife, Part 10 of a Multi-part Series’ HOST ในเดือนกรกฎาคม ปี 1981 เกล วอลเทอร์ส อายุ 25 ปี อยู่บนเรือกับเพื่อนบางคน ขณะที่เธอกำลังล้างจาน ในห้องครัว คลื่นแรงสั่นสะเทือนเรือ และกระแทกเธอเข้ากับ อ่างล้างจานในห้องครัว สามวันต่อมา คุณวอลเตอร์สตระหนักว่า เธอมีเลือดออกภายใน จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ในห้องพยาบาล สิ่งต่าง ๆ เริ่มมืดมน ทูตสวรรค์พา คุณวอลเตอร์สไปที่ประตูสวรรค์Excerpt from ‘FACE TO FACE WITH GOD / THE ANGEL & THE AMERICAN PART 4’Gail Walters: พระเจ้าทรงยืนอยู่ข้างหลังฉัน และพระเยซูทรงยืนอยู่ทางขวา ของพระเจ้า เหนือไหล่ขวาของฉัน เมื่อคุณยืนอยู่ที่นั่นกับ พระบิดาบนสวรรค์และ พระผู้ช่วยให้รอด ความรักที่คุณ รู้สึก ฉายออกมาจากพวกท่าน ในจิตวิญญาณของคุณ ที่ผ่าน จิตวิญญาณของคุณ หัวใจของคุณ ทุกสิ่ง เหมือนกับว่า คุณเป็นลูกคนเดียวของพวกท่าน และพวกท่านรักเรามากขนาดนั้นExcerpt from ‘Near-Death Experiences – Exploring Heavens and the Afterlife, Part 10 of a Multi-part Series’ HOST: ในปี 2020 จอห์น คาร์เตอร์ ล้มลงในบ้านของเขาจาก การติดเชื้อในกระแสเลือด เขาถูกพบโดยหน่วยฉุกเฉิน ในอีกห้าวันต่อมา และ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ขณะอยู่ในห้องฉุกเฉิน คุณคาร์เตอร์เสียชีวิตและ ถูกปั๊มขึ้นมาได้สองครั้ง ในช่วงเวลานี้ วิญญาณของเขา ออกจากร่างและประสบกับ เอ็นดีอี (ประสบการณ์ใกล้ตาย) ที่น่าทึ่ง เขาพบว่าตัวเองอยู่ในท่อ ที่ซึ่งประสบการณ์ที่ดีที่สุด ในชีวิตของเขาแวบวับ ไปตามผนัง ที่ปลายท่อมีแสงสว่าง เจิดจ้า เมื่อ คุณคาร์เตอร์ไปถึง จู่ ๆ เขาก็พบว่า ตัวเองนอนอยู่บนพื้น หันหน้าไปทางท้องฟ้า เขารู้สึกถึงอ้อมแขนโอบรอบเขา และไม่นานก็ตระหนักว่า นั่นคือองค์พระเยซูคริสต์Excerpt from “MAN DIED AND SEES JESUS AND HIS FAMILY IN HEAVEN! JOHN CARTER NEAR DEATH EXPERIENCE” John Carter: เมื่อผมมองไปทางขวา เพื่อดูว่าเป็นใคร นั่นคือพระเยซูคริสต์ เมื่อผมมองเข้าไปในดวงตาของท่าน ผมมองเห็นความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ความเมตตา และความเอื้ออาทรมากมายมากมาย มันขยับจิตวิญญาณของผม ผมรู้สึกเหมือนหัวใจของผม โตขึ้นประมาณ 50 เท่าHOST: จากนั้นพระเยซูเจ้าก็เริ่ม ตรัสกับคุณคาร์เตอร์ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ของโลกJohn Carter: ท่านกล่าวว่า “ตอนนี้ ฉันไม่ค่อยพอใจกับ สิ่งที่โลกเป็นอยู่” ท่านกล่าวว่า “ในโลกนี้ มีความเกลียดชังมากเกินไป และนั่นเป็นเพราะซาตาน”HOST: พระเยซูเจ้าจึงบอก คุณคาร์เตอร์ว่าพระองค์จะส่งเขา กลับมายังโลกและขอให้ เขาถ่ายทอดข้อความต่อไปนี้John Carter: “ฉันอยากให้เธอ บอกผู้คนให้รักกัน ดูแลกันและกัน และมีน้ำใจต่อกัน และจงรักกันและ ดูแลกันและกันเสมอ และรักกันเหมือน ที่ฉันรักพวกเขา” ความรักแบบเดียวกับ ที่เด็กสามขวบ จะมอบให้กับแม่หรือพ่อ ความรักนั้น ความรักอันบริสุทธิ์นั้น นั่นคือวิธีที่ พระเยซูทรงต้องการ ให้เราทุกคนรักกัน
มันไม่ได้หมายความว่าคุณพบกับ พระเยซูผู้สูงสุด พระบุตรของพระเจ้า เสมอไป แต่เป็นหนึ่งในร่างจิตวิญญาณพิเศษ ของพระเยซู เพราะผู้ที่ประสบเหตุการณ์ ใกล้ตายนั้น ไม่ใช่ทุกคน จะมีระดับผลบุญทางจิตวิญญาณ และคู่ควรเพียงพอ ที่จะขึ้นไปสู่ระดับที่สูงที่สุด เท่าที่จะขึ้นไปได้ ซึ่งพระเยซูประทับอยู่จริง ๆ แต่มันเหมือนกัน มันเหมือนกัน มันก็แค่ไม่เหมือนกัน และคนที่มีประสบการณ์ ใกล้ตายเหล่านี้แทบจะ ไม่ได้รับการบอกให้เป็นวีแกน หรืออะไรทำนองนั้น แค่พูดทั่ว ๆ ไป เช่น “คุณต้องกลับไป คุณมีงานต้องทำ และคนเหล่านั้น จะต้องรู้ว่า พวกเขาต้องรักกัน” มันเป็นเรื่องง่ายที่จะจำสิ่งนั้น แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนอื่นที่จะปฏิบัติตามคุณ เพราะนั่นไม่ใช่คำแนะนำ โดยละเอียดที่แท้จริง แต่ในสวรรค์นั้น มันมีแค่นั้น แค่ความรัก ความปีติสุข และความสุข ที่เหนือระดับ ซึ่งคุณสามารถบรรยายได้ว่า เป็นความสุขตามมาตรฐาน ของโลกนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรจะพูด ให้ละเอียดอย่าง “คุณไม่สังหาร ชาวสัตว์ คุณไม่ฆ่า ชาวสัตว์ คุณไม่กิน เนื้อชาวสัตว์” เป็นต้นฉันกำลังคิดว่า คนที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย พวกเขากลับบ้าน พวกเขากลับมาสู่โลก พวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาเปลี่ยนแปลงไป เป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นมากขึ้น มีเมตตามากขึ้น ในแบบที่พวกเขาเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้มีรายละเอียด เหมือนกับที่อาจารย์คนไหน สอนคุณบนโลกนี้ เพราะ เมื่ออาจารย์อยู่บนโลก เธอ/เขาจะเห็นความทุกข์ทั้งหมด และสาเหตุของความทุกข์ ดังนั้นพวกท่านสามารถสอนคุณ ได้อย่างละเอียดมากขึ้น และมีเวลา อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิถีชีวิต ที่เต็มไปด้วยความเมตตานี้มากขึ้น แต่ในสวรรค์ คุณไม่มีสิทธิ์อยู่ได้นาน คุณทำไม่ได้ หากคุณอยู่ที่นั่น นานกว่าที่ได้รับอนุญาต สักนาทีหนึ่ง คุณก็จะตายตลอดไป ฉันหมายความว่าคุณไม่สามารถ กลับไปสู่ร่างของคุณได้อีกต่อไปเพราะเราไม่ได้รับอนุญาต ที่จะไปสวรรค์โดยบังเอิญ เมื่อไหร่ก็ได้แบบนั้น เราต้องฝึกปฏิบัติ สมาธิทางจิตวิญญาณ เพื่อเสริมสร้างพลังของเรา และรักษาระดับที่เรามีอยู่ ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ระดับทางจิตวิญญาณที่เรามีอยู่ ความถี่ คุณความดี และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้คงอยู่ ในระดับจิตวิญญาณ ที่เราได้ปีนกลับมา แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้ว คุณจะอยู่ในระดับจิตสำนึก ที่สูงกว่าก็ตาม เมื่อคุณออกจาก ระดับนั้นแล้วและลงสู่โดเมน ทางกายภาพที่หยาบกระด้างนี้ คุณจะต้องเริ่มต้นใหม่ แทบจะทุกครั้งเลย ดังนั้นแม้แต่อาจารย์เอง ก็ต้องท่องไปทั่ว เพื่อแสวงหา ปรมาจารย์ผู้รู้แจ้ง ทางจิตวิญญาณและวิธีการ เพื่อที่จะกลับคืนสู่สวรรค์ และต้องเริ่มต้น จากระดับที่พวกท่านอยู่ ก่อนการรู้แจ้งด้วย ฉันหมายถึงเฉพาะในโลกนี้เท่านั้น ไม่ใช่โลกทางจิตวิญญาณ จากนั้นก็เริ่มกลับ มันใช้เวลานานมาก – ยกเว้นสำหรับปรมาจารย์ทรงพลัง เป็นพิเศษบางท่าน ซึ่งพวกท่าน สามารถฟื้นคืนมันให้ได้เร็วขึ้นอย่างไรก็ตาม มนุษย์ผู้จริงใจคนใดก็ตาม ที่ได้พบกับอาจารย์ผู้รู้แจ้งที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาก็มีโอกาสเสมอ ที่จะได้รับการรู้แจ้ง ในระดับจิตวิญญาณอีกครั้ง ในช่วงชีวิตของพวกเขา แค่นี้ก็เร็วมากพอแล้ว พระภิกษุและแม่ชีและนักปราชญ์ ทางศาสนาที่มีชื่อเสียงมากมาย ใช้เวลานานทั้งชีวิตของพวกเขา เพื่อเรียนรู้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นเดียวกับที่ผู้ประทับจิต ของอาจารย์ผู้รู้แจ้งผู้ยิ่งใหญ่ ได้เรียนรู้ภายในเวลาเพียง ไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที ในระหว่างการประทับจิต ณ เวลาของการประทับจิต หากคุณอยู่ที่นั่น เพื่อรู้จักพระเจ้า เพื่อรู้จักตัวตน อันยิ่งใหญ่ของคุณอย่างแท้จริง คุณจะได้รับมันทันที ไม่มีคำถาม ไม่มีอุปสรรค ทั้งหมดเป็นของคุณ – จิตใจของคุณ ทัศนคติของคุณ ความจริงใจของคุณ เป็นตัวกำหนดว่าคุณสามารถ ก้าวไปสู่ระดับไหนได้ทันที ในช่วงเวลาของการประทับจิตถึงอย่างนั้น อาจารย์ก็ยังช่วยอยู่เสมอ ฉะนั้นในระหว่างการประทับจิต หากคุณพลาดไป ฉันก็จะบอก ธรรมทูตกวนอิมว่า พวกเขาควรตรวจสอบอีกครั้ง และช่วยให้พวกเขา ทำขั้นตอนการประทับจิตเพิ่มเติม อีกเล็กน้อย อีกสักหน่อย ครั้งที่สอง ตรงนั้น ดังนั้น ฉันได้แจกไฟล์เสียงอีกครั้ง เพื่อเตือนคุณ เกี่ยวกับคำแนะนำข้อหนึ่ง ที่คุณได้รับระหว่างการประทับจิต แต่บางคน อาจจะลืมไปแล้ว ฉันจึงได้บันทึกเสียงไว้ และส่งให้ฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง ของทีมงานของเราทราบ คุณก็จะได้ทบทวนอีกครั้งว่า จะต้องนั่งสมาธิตอนกลางคืนอย่างไร ให้ได้เวลาทั้งคืน เท่ากับจำนวนชั่วโมงนั่งสมาธิ หากคุณลืม คุณจะได้รับการเตือน เร็ว ๆ นี้ เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ดังนั้น รออีกสักสองสามวัน คุณจะรู้ ถ้าคุณอยู่ทีมงานภายใน คุณจะรู้ ก่อนคนอื่นและฉันชื่นชมพวกคุณทุกคน มาก ๆ มาก ๆ ฉันหวังว่าฉันจะอยู่กับคุณ หรืออยู่ใกล้คุณได้เหมือนแต่ก่อน และเราจะได้พูดคุยบ่อย ๆ และยกแก้ว เพื่อส่งเสียงเชียร์วันปีใหม่ คริสต์มาส และทั้งหมดนั้น แต่ไม่เป็นไร คุณยังฉลองเหมือนเดิม ชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงามสำหรับเรา ผู้ปฏิบัติธรรม ดังนั้นจงเห็นคุณค่า และเฉลิมฉลองให้กับมัน ถ้าเราต้องไป เราก็ไป ถ้าเราอยู่ได้ เราก็ทำงาน สำหรับเรามีทางเลือกเพียงสองทาง มันเป็นชีวิตของเราแล้วตอนนี้ เรามีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น และเพื่อสรรพสัตว์อื่น ๆ ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัว อะไรทั้งสิ้นฉันต้องปกป้องตัวเอง ในทางที่เป็นความลับมากขึ้น ดังที่คุณรู้ตอนนี้ ฉันหมายถึง นับตั้งแต่ฉันเริ่มงานนี้ มีอะไรบางอย่างเสมอ แต่คุณก็เห็นว่าฉันไม่มีความกลัว เพราะงั้นฉันจึงยังคงทำงานต่อไป และแม้ว่าฉันจะมีความกลัว ฉันก็ยังต้องทำงาน เพราะฉันไม่มี ความตั้งใจ หรือเป้าหมายอื่นใด นอกจากการช่วยโลกนี้ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้Photo Caption: มากมายจากหนึ่งเดียวมนุษย์อาจตื่นขึ้นมา พร้อมกับการสนับสนุนและพระกรุณา จากสามองค์ผู้ทรงพลังที่สุด ที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ตอนที่ 3 จาก 5 ตอน
2025-05-02
รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ชาวสัตว์ทั้งหลายถูกสร้างโดยพระเจ้า ถูกสร้างโดยสวรรค์ แต่บางส่วน ก็กลายร่างเป็น ชาวสัตว์เหล่านี้ เพราะกรรม แต่บางคนก็ลงมายังโลก ด้วยความสมัครใจ ในรูปแบบชาวสัตว์ที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ ความกรุณาและการเสียสละ ของพวกเขาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ และสายพันธุ์อื่น ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด! ไม่ใช่แค่บนดาวเคราะห์นี้เท่านั้น แต่ รวมถึงทุกแห่งในจักรวาล แน่นอนว่าเป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกับผลไม้และผัก พระเจ้าก็ทรงสร้างพวกมันเพื่อบำรุง เลี้ยงทุกสรรพสัตว์ แตกต่างกัน แต่พลังลบ ได้ทำให้บางสิ่งไม่ดีหรือสำเนาไม่ดี เช่นเดียวกันกับสายพันธุ์สัตว์ ขอบคุณพระเจ้าที่มีพวกนี้ไม่มาก! บางคนกลายเป็น ชาวสัตว์ เพราะกรรม แต่ถึงอย่างนั้น ชาวสัตว์เหล่านี้ก็เข้าใจอย่างชัดเจน ถ่องแท้ว่าทำไมพวกเขา ถึงได้กลายเป็นชาวสัตว์ พวกเขาจึงประพฤติตนเหมือนนางฟ้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช้ พลังที่พวกเขามี เพื่อแก้แค้นมนุษย์ แต่เมื่อมีวิญญาณของชาวสัตว์ จำนวนนับพันล้าน ล้านล้าน และนับไม่ถ้วน ที่ต้องตายอย่างกะทันหัน หรือตายอย่างทรมาน จากการฆาตกรรมของมนุษย์ นั้นย่อมเป็นคนละเรื่อง ดังนั้นพลังแห่งความทุกข์ ความโศกเศร้า หรือบางครั้ง แม้กระทั่งความเกลียดชัง ก็จะไม่สลายไป และอาจกลายเป็นภัยพิบัติ โรคระบาด หรือสงครามสำหรับมนุษยชาติได้อีกทั้งมันยังควรเป็น บทเรียนให้มนุษย์ เข้าใจถึงความรับผิดชอบ ในการกระทำของตนด้วย ในโลกนี้มันก็เป็นแบบนั้น เรามีการกระทำและปฏิกิริยาตอบโต้ และผลที่ตามมา ในสวรรค์ไม่มี แม้แต่สวรรค์ชั้นต่ำกว่าก็ไม่มี การกล่าวถึงเรื่องนั้น น้อยมาก ๆ !!! ดังนั้นคนที่ประสบ เหตุการณ์เฉียดตาย แล้วฟื้นขึ้นมา จึงจำอะไรได้ไม่มากนัก ทั้งบรรดาสิ่งมีชีวิตที่สูงส่ง ในสวรรค์ต่าง ๆ ที่พวกเขาได้ขึ้นไป บ้างก็มีรูปลักษณ์เหมือน พระเยซูคริสต์หรือพระพุทธเจ้า
